Radiesse ต่างจาก filler อย่างไร

Radiesse เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมเติมที่ใช้ในการเติมเต็มบริเวณใบหน้าเพื่อลดริ้วรอยและเส้นตื้น ซึ่งมักจะใช้ในการเติมประเภทของฟิลเลอร์ เพื่อให้ผิวดูมีความกระชับและมีปริมาณที่มากขึ้น แต่ Radiesse มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปอย่างไรบ้าง

สารส่วนประกอบ: Radiesse สารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ชนิดพิเศษ ที่ประกอบด้วย CaHA หรือ Calcium Hydroxylapatite ซึ่งเป็นสารที่พบในร่างกายมนุษย์ โดยปกติใช้ในการเสริมกระดูก ส่วน filler อื่นๆ มักจะมีสารส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ Polymer อย่างเดียวกัน ซึ่งมักจะมีคุณสมบัติและการทำงานที่แตกต่างกัน

การทำงาน: Radiesse ทำงานโดยการสร้างโครงของบริเวณที่เติมเข้าไป และสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว ซึ่งช่วยให้ผิวดูกระชับและมีปริมาณมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ฟิลเลอร์อื่นๆ มักจะทำงานโดยการเติมปริมาณเท่านั้น โดยไม่มีส่วนร่วมในการสร้างโครงสร้างของผิวหรือคอลลาเจน

ความคงทน: Radiesse มีความคงทนมากขึ้นและอาจสามารถใช้ได้นานกว่าฟิลเลอร์อื่นๆ โดยทั่วไป ส่วนใหญ่การเติม Radiesse สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีเป็นเวลากว่าหนึ่งปี Radiesse อยู่ได้นานสุด คือ 1 ปีขึ้นไป ส่วนฟิลเลอร์แบบ HA มักจะไม่เกิน 1 ปี

การใช้ในบริเวณต่างๆ: Radiesse มักจะใช้ในการเติมร่องลึกหรือบวมในบริเวณหน้าและแก้ม แต่มันไม่เหมาะกับการเติมริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาหรือปรับรูปร่างปาก เหมือนกับฟิลเลอร์ในรูปแบบอื่นๆ

ความปลอดภัย: Radiesse เป็นสารฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูงและได้รับการอนุมัติจาก FDA (องค์กรอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา) สำหรับการใช้งานในทางการแพทย์
ดังนั้น ผู้ที่สนใจในการใช้ Radiesse หรือฟิลเลอร์อื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเสริมความงามเพื่อให้ได้คำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจใช้งาน

ผลข้างเคียงหลังทำการฉีด Radiesse 

1.อาจมีรอยแดงหรือรอยเขียวช้ำเกิดขึ้นได้ชั่วคราวซึ่งอาการเหล่านี้สามารถหายได้เอง
2.อาจมีอาการคันบริเวณที่ฉีดได้ โดยอาการคันดังกล่าวสามารถหายได้เอง
3.อาจมีอาการปวดบริเวณรอยเข็ม ห้ามไปจับหรือเกาเนื่องจากรูเข็มยังปิดไม่สนิทอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ
4.อาจมีการเปลี่ยนสีเช่นผิวซีดลงในบริเวณที่ทำการรักษาหากเกิดกรณีนี้ให้ปรึกษาแพทย์ในทันที

ปัจจุบันมีคลินิกมากมายที่ให้บริการ  Radiesse แต่การเลือกคลินิกที่ดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปนั้นควรพิจารณาจากมาตรฐานความปลอดภัย ที่อิสสวีร์คลินิกมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในด้านการฉีดกว่า 10 ปี ที่มีความชำนาญ และใช้เทคนิคที่เหมาะสมสำหรับคนไข้เป็นอันดับแรก