ตาดูง่วง หน้าดูโทรม ทั้งที่นอนพอ? อาจเป็นเพราะตาตก

คุณเคยไหมตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นจากนอนเต็มอิ่ม แต่พอไปทำงานกลับมีแต่คนทักว่า “ดูเหนื่อยจัง” หรือ “เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ” ทั้งที่จริง ๆ แล้วคุณหลับสบายตลอดคืน ถ้าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ๆ ปัญหานี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับหรือความเครียดโดยตรง แต่อาจเกิดจากภาวะตาตก หรือ หนังตาตก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ดวงตาดูเหนื่อยล้าและส่งผลต่อภาพลักษณ์ของใบหน้าโดยที่คุณไม่ทันสังเกตได้

ตาตกคืออะไร?

ภาวะตาตก หรือ หนังตาตก คืออาการที่หนังตาบนหย่อนลงมามากกว่าปกติจนบังตาดำบางส่วนหรือทับชั้นตา ทำให้ดวงตาดูเล็กลงเหมือนง่วงตลอดเวลาแม้ว่าจะไม่รู้สึกง่วงเลยก็ตาม นอกจากจะส่งผลต่อบุคลิกภาพแล้วยังอาจสามารถส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้อีกด้วย

ภาวะตาตกสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ 

  • พันธุกรรม
  • อายุมากขึ้น ทำให้ผิวและกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาหย่อนคล้อย
  • ใช้สายตามากเกินไป เช่น จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน
  • ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis)

สัญญาณเตือนว่าคุณอาจมีภาวะตาตก

  • ดวงตาดูง่วง แม้นอนไม่ง่วง
  • มีคนทักบ่อยว่าหน้าดูเหนื่อยหรือโทรม
  • เปลือกตาบนตกลงมาปิดชั้นตาชัดเจน
  • แต่งตาไม่สวยเหมือนเดิม หรืออายแชโดว์ไม่ติด
  • เริ่มมองเห็นด้านบนไม่ชัดเจน (ในรายที่อาการหนัก)

วิธีแก้ปัญหาตาตก

1. ผ่าตัดแก้หนังตาตก (Upper Blepharoplasty)
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาตกในระดับปานกลางถึงมาก โดยศัลยแพทย์จะตัดหนังตาส่วนเกินออก เพื่อให้เปลือกตากลับมากระชับและเห็นชั้นตาชัดเจน ผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายปี และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นทันที

2. ยกคิ้วหรือยกหางตา (Brow Lift / Lateral Canthopexy)
ในบางกรณี หนังตาตกอาจเกิดจากการที่คิ้วหรือหางตาตกลงมา การยกคิ้วหรือหางตาช่วยให้โครงสร้างรอบดวงตากระชับขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องตัดหนังตา

3. เลเซอร์ยกกระชับรอบดวงตา
เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ยังไม่อยากผ่าตัด เหมาะกับเคสที่ตาตกเล็กน้อยถึงปานกลาง เลเซอร์ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและทำให้ผิวบริเวณเปลือกตายกกระชับขึ้น

4. การใช้ครีมหรือเซรั่มบำรุงรอบดวงตา
แม้ไม่สามารถยกหนังตาได้จริงจัง แต่ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมกระชับผิวและลดริ้วรอยสามารถช่วยให้ดวงตาดูสดใสขึ้นในระดับหนึ่งได้


หากคุณรู้สึกว่าตัวเอง “ดูง่วง ดูโทรม” ตลอดเวลา ทั้งที่นอนเพียงพอ อาจถึงเวลาที่ต้องหันมาสังเกตดวงตาตัวเองแล้วว่าเริ่มมีภาวะหนังตาตกหรือไม่ การแก้ไขสามารถทำได้ทั้งแบบไม่ต้องผ่าตัดและผ่าตัด ขึ้นอยู่กับอาการและความต้องการของแต่ละคน หากไม่แน่ใจหรืออยากสอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อขอคำปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ http://issaveeclinic.com เพื่อรับการดูแลที่เหมาะสมอย่างเป็นมืออาชีพค่ะ